วิธีในการออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้างของอาคารเพื่อใช้ในการต้านทานแรงที่กระทำจากแผ่นดินไหว

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

วันนี้ผมจะขออนุญาตมาทำการโพสต์และแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ความรู้ทางด้านงานออกแบบที่เกี่ยวข้องกันกับการทำงานทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างเชิงพลศาสตร์ต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ

ไมโครไพล์

โดยที่หัวข้อในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่อง วิธีในการออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้างของอาคารเพื่อใช้ในการต้านทานแรงที่กระทำจากแผ่นดินไหว นั่นเองนะครับ

 

โดยหากจะพูดกันถึงหัวข้อๆ นี้จะพบว่าเนื้อหานั้นค่อนข้างที่จะมีความยืดยาวมากพอสมควรเลย ผมจึงตัดสินใจที่จะทำการแบ่งออกเป็นตอนๆ โดยที่ในวันนี้จะเป็นตอนที่ 1 ซึ่งจะเป็นการกล่าวถึง หลักวิธีที่เราใช้ในการออกแบบ นะครับ

 

หากเมื่อใดก็ตามที่เราพูดถึงแรงกระทำที่เกิดจากสภาวะการเกิดขึ้นของแผ่นดินไหว เราจะต้องอาศัยความพยายามสักเล็กน้อยในการที่จะจินตนาการให้ออกว่า แรงชนิดนี้เสมือนเป็นแรงที่เกิดจากการสั่นตัวของพื้นซึ่งจะทำให้อาคารนั้นเกิด การเคลื่อนที่ไปทางด้านข้าง หรือ เกิดการเซขึ้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้จะเป็นสิ่งที่บังคับให้โครงสร้างของอาคารที่เรากำลังพิจารณาออกแบบอยู่นั้นเกิดการเคลื่อนตัวไป โดยหากเราจะทำการออกแบบให้อาคารหนึ่งๆ นั้นสามารถที่จะต้านทานต่อแรงกระทำจากการเกิดแผ่นดินไหวให้ได้ เราจะสามารถทำการแบ่งวิธีในการออกแบบออกได้เป็น 2 วิธีหลักๆ นั่นก็คือวิธี FORCE BASED DESIGN หรือที่เรานิยมเรียกสั้นๆ ว่า FBD และวิธี DISPLACEMENT BASED DESIGN หรือที่เรานิยมเรียกสั้นๆ ว่า DBD นะครับ

 

โดยหากจะทำการเปรียบเทียบกันระหว่างวิธี FBD และ DBD เราจะสามารถพบเห็นถึงข้อจำกัด ข้อดี ข้อด้อย ของการเลือกใช้งานวิธีในการออกแบบแต่ละวิธี ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันออกไปคนละแง่คนละมุม โดยเราอาจเริ่มจาก

 

  1. ค่า DESIGN FORCE หรือ แรงที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างของอาคาร

 

หากเป็นวิธี FBD ค่าของแรงที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างของอาคารจะอยู่ในช่วง อิลาสติก หารด้วยตัวคูณปรับแก้

 

ส่วนเมื่อเราใช้วิธี DBD ในการออกแบบ ค่าของแรงที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างของอาคารจะอยู่ในช่วง อินอิลาสติก สลับกันนะครับ

 

  1. ค่า DUCTILITY หรือ ความเหนียวของโครงสร้างอาคาร

 

หากเป็นวิธี FBD เราจะทำการตั้งสมมติฐานว่าค่าความเหนียวของอาคารนั้นจะเกิดขึ้นอย่างเพียงพอเพราะเนื่องจากว่าค่าแรงที่ใช้ในการออกแบบนั้นมีค่าที่ค่อนข้างต่ำ

 

ส่วนเมื่อเราใช้วิธี DBD ในการออกแบบ เราจะตั้งสมมติฐานว่าค่าระดับของความเหนียวที่อาคารนั้นต้องการจะสามารถกำหนดขึ้นได้จากระยะของการเคลื่อนตัวเป้าหมาย (DISPLACEMENT DEMAND) ที่ทำการตรวจสอบเทียบกันกับสมรรถนะของการเคลื่อนตัวของอาคารนะครับ

 

  1. ค่า STRUCTURAL DAMAGE หรือ ความเสียหายของชิ้นส่วนโครงสร้างของอาคาร

 

หากเป็นวิธี FBD เราอาจจะสามารถเรียกได้ว่า “หลีกเลี่ยง” ค่าความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นในชิ้นส่วนโครงสร้างใดๆ ที่มีความสลักสำคัญภายในโครงสร้างหลักของอาคารได้ แต่ ต้องหมายเหตุไว้ตรงนี้ด้วยว่า การทำเช่นนี้เป็นเพียงการ “คาดหมาย” เพียงเท่านั้น หรือ พูดง่ายๆ ก็คือเราไม่สามารถที่จะกล่าวได้ 100% ว่าความเสียหายนั้นๆ จะไม่เกิดขึ้นเลยได้อย่างสนิทใจ

 

ส่วนเมื่อเราใช้วิธี DBD ในการออกแบบจะพบว่าเราจะสามารถทำการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อชิ้นส่วนโครงสร้างที่มีสำคัญๆ ได้อย่างสมบูรณ์เพราะในขั้นตอนของการวิเคราะห์โครงสร้างนั้นเราจะสามารถทราบรูปแบบของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวโครงสร้างได้เลยนะครับ

 

ในสัปดาห์หน้าผมจะขออนุญาตมาทำการพูดถึงเรื่อง การวิเคราะห์แรงแผ่นดินไหว หรือ SEISMIC ANALYSIS กันต่อ โดยหากมีเพื่อนๆ ท่านใดที่มีความสนใจในหัวข้อๆ นี้เป็นพิเศษ ก็สามารถที่จะติดตามอ่านบทความนี้ของผมได้นะครับ

 

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ

#การออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างต้านทานแรงกระทำจากแผ่นดินไหว

#หลักวิธีที่ใช้ในการออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างต้านทานแรงกระทำจากแผ่นดินไหว

ADMIN JAMES DEAN


บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปัน ไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service) Certified by SGS (Thailand) Ltd.

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม มอก. 397-2524 เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐาน มอก. การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

1. สี่เหลี่ยม S18x18 cm.

รับน้ำหนัก 15-20 ตัน/ต้น

2. กลม Dia 21 cm.

รับน้ำหนัก 20-25 ตัน/ต้น

3. กลม Dia 25 cm.

รับน้ำหนัก 25-35 ตัน/ต้น

4. กลม Dia 30 cm.

รับน้ำหนัก 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)

☎ สายด่วนภูมิสยาม:
082-790-1447
082-790-1448
082-790-1449
081-634-6586

? Web:
bhumisiam.com
micro-pile.com
spun-micropile.com
microspunpile.com
bhumisiammicropile.com